ฝีมือที่ฝึกฝนและรับสืบทอดมาพร้อมกับประวัติศาสตร์ เครื่องกระเบื้องถ้วยชามยุคแรกในญี่ปุ่น ค่อย ๆ เปลี่ยนรูปโฉมเป็นงานไม้ไผ่ที่แสนละเอียด… ฝีมือที่กำเนิดจากภูมิประเทศและฝังรากลึกลงในแต่ละพื้นที่ของคิวชิวยังปรากฎให้เห็นอยู่ อย่างภาชนะโมเดิ้ลที่ให้ความรู้สึกถึงความทันสมัย, อย่างของตั้งโชว์ที่น่ารักจนอดอมยิ้มไม่ได้ ฝีมือเติมเต็มจิตวิญญาณของเรา เอาละ ไปดูฝีมือของคิวชิวกันเถอะ
สวนญี่ปุ่นของตระกูลชิมาซึแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1658 และเป็นสวนขนาดใหญ่ซึ่งอาศัยทัศนียภาพของเกาะซากุระจิมะและอ่าวคินโควเป็นฉากตามหลักภูเขาและน้ำ ภายในสวนกว้างแห่งนี้ปรากฏร่องรอยประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับตระกูลชิมาซึโดยทั่ว หนึ่งในนั้นคือ “ซากเตาหลอมแบบสะท้อน” ซึ่งเป็นซากเตาหลอมเหล็กที่ชิมาซึ นาริอากิระสร้างขึ้นเพื่อผลิตปืนใหญ่โดยอาศัยศึกษาจากหนังสือของชาวฮอลันดาเท่านั้น เตาหลอมนี้เป็นส่วนประกอบหนึ่งใน “มรดกการปฏิวัติอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นในสมัยเมจิ” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 ที่นี่มีจุดน่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น “โกะเด็น” เรือนพักให้บุคคลสำคัญค้างแรมเมื่อมาเยี่ยมเยียนเซนงังเอ็นหรือซากเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ นอกจากนี้ยังมี “ศาลเจ้าสึรุกาเนะ” ซึ่งเชื่อกันว่าผู้ที่ไปสักการะจะได้รับพรด้านความงามอีกด้วย เสน่ห์อีกประการของเซนงังเอ็นคือมีร้านอาหารและร้านจำหน่ายของที่ระลึก นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอาหารของจังหวัดคาโกชิมะพลางชมทิวทัศน์ของเกาะซากุระจิมะไปด้วย
งานหัตถศิลป์ไม้ไผ่เบปปุ คืองานหัตถกรรมแบบดั้งเดิมซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติแห่งชาติญี่ปุ่นอันแสดงถึงความอ่อนช้อยและสง่างามในเวลาเดียวกัน วัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นไม้ไผ่พันธุ์มะดะเกะคุณภาพดีที่มีฐานการผลิตหลักอยู่ในเมืองเบปปุเอง เพื่อนำมาสรรสร้างผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น ตะกร้า ผู้คนต่างหลงใหลงานหัตถศิลป์ที่ประดิษฐ์ขึ้นด้วยวิธีสานซับซ้อนและแตกต่างกันเช่นนี้ งานหัตถศิลป์นี้มีที่มาเก่าแก่ ในตำนาน “นิฮนโชกิ” บันทึกเอาไว้ว่าครั้งที่จักรพรรดิเคะอิโคะเสด็จกลับจากการปราบกบฏคุมะโซะในคิวชูและแวะพักที่เบปปุ เหล่าข้าราชบริพารเห็นว่าที่นี่มีไผ่เนื้อดีจำนวนมากจึงนำไปสานทำตะกร้าใส่ถ้วยชา งานหัตถศิลป์ไม้ไผ่นั้นมีขั้นตอนจำเป็นมากมายก่อนจะนำมาสาน ตั้งแต่การโค่นไผ่ เตรียมเพื่อแปรรูป ตัด ไสให้บางและเหลาเรียบ รวมทั้งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมีฝีมือสานไผ่ให้เป็นทรง ที่นี่ยังมีจุดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์สานไผ่ง่ายๆ เอาไว้ด้วย ลองทำดูบ้างไหมคะ
สัมผัสผิวนุ่มละมุน สีสันสบายตา คุรุเมะ คาสุริที่ให้สัมผัสแสนคุ้นเคยนี้คือผ้าทอซึ่งผลิตในเมืองคุรุเมะ จังหวัดฟุกุโอกะ เมื่อต้นศตวรรษที่ 19 สาวน้อยผู้มีอายุเพียง 12 ปีในขณะนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเศษเส้นด้ายผ้าฝ้ายเก่า ๆ และเริ่มทอผ้าเป็นงานเสริมจากการทำนาแถวเมืองจิคุโกะ หลังจากนั้นชื่อเสียงของผ้าทอนี้ก็แผ่ขยายไปทั่วประเทศในฐานะเครื่องนุ่งห่มสำหรับชาวบ้าน ผ้าคุรุเมะ คาสุริผืนหนึ่งต้องผ่านงานฝีมือมากกว่า 30 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนย้อมด้ายที่เรียกว่า “คุคุริ” ซึ่งต้องทำให้ด้ายมีส่วนที่ย้อมและไม่ย้อม ผ้าคุรุเมะ คาสุริจึงเรียกได้ว่าเป็นผลงานสิ่งทออันทรงคุณค่าเนื่องจากสร้างโดยช่างมากฝีมือ ในระยะหลังเริ่มมีของจุกจิกและผ้าจำนวนมากถือกำเนิดขึ้นมาโดยเพิ่มลวดลายให้ดูทันสมัยขึ้นแต่ยังใช้วิธีการผลิตแบบดั้งเดิมจนได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก
เครื่องลายครามอาริตะคือเครื่องปั้นดินเผาที่สร้างแบบอย่างให้เครื่องลายครามของญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานตั้งแต่ช่วงเริ่มศตวรรษที่ 17 ช่างปั้นชาวเกาหลีค้นพบหินเซรามิคซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับทำเครื่องลายครามที่ภูเขาอิสึมิกะเมืองอาริมะ แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มมีการผลิตเครื่องลายครามในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก อาริมะไม่มีพื้นที่ติดทะเลจึงต้องอาศัยท่าเรือของเมืองอิมาริซึ่งอยู่ข้างเคียง ทำให้สิ่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า “เครื่องลายครามอิมาริ” ชื่อ “IMARI” เป็นที่รู้จักดีในวงการต่างประเทศและประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดความงดงามแบบฉบับญี่ปุ่นให้ชาวโลกได้สัมผัส งานศิลป์นั้นเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับยุคสมัยและความสัมพันธ์กับต่างประเทศจึงก่อเกิดเป็นลวดลายแสนสวยขึ้นมาใหม่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น “ลายอิมาริยุคแรก” ซึ่งวาดลายด้วยสีคราม หรือ “ลายคินรันเดะ” ซึ่งใช้สีทองกับสีแดงแสนฉูดฉาด นอกจากนักท่องเที่ยวจะสามารถเข้าชมการผลิตเครื่องลายครามของช่างฝีมือได้แล้ว ยังมีจุดสำหรับทดลองวาดลายเองอีกด้วย สนใจเก็บไว้เป็นความทรงจำของการเดินทางเสียหน่อยไหมคะ
